
โรคมือเท้าปากในเด็ก คุณพ่อคุณแม่ รับมืออย่างไร?
เมื่อพูดถึงโรคมือเท้าปากในเด็ก หลายครอบครัวคงเคยประสบปัญหานี้มาแล้ว ถือเป็นโรคในเด็กยอดฮิตโดยเฉพาะในช่วงที่ลูกๆ เข้าโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรืออยู่ในชุมชนที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กคนอื่นๆ โรคมือเท้าปากในเด็ก เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และสามารถทำให้เด็กมีอาการไข้สูง เจ็บคอ และปฏิเสธอาหาร ส่งผลให้พ่อแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
โรคมือเท้าปากคืออะไร? โรคติดต่อยอดฮิตในเด็กวัยเรียน
โรคมือเท้าปากในเด็ก หรือ Hand, Foot, and Mouth Disease (HFMD) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสในตระกูล Enterovirus ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี โรคนี้มีลักษณะเฉพาะคือการเกิดตุ่มน้ำใสหรือแผลเล็กๆ บริเวณมือ เท้า และในปาก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโรคนี้
ตามข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามือเท้าปากในเด็กเป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในสถานศึกษา โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนและต้นหน้าร้อน เนื่องจากไวรัสสามารถอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่อุ่นชื้นได้นาน
ทำความรู้จักเชื้อไวรัส Coxsackievirus และ Enterovirus 71
เชื้อสาเหตุหลักของโรคมือเท้าปากในเด็กคือ Coxsackievirus A16 และ Enterovirus 71 (EV71) ซึ่งทั้งสองชนิดมีความแตกต่างในด้านความรุนแรงของอาการ Coxsackievirus A16 มักทำให้เกิดอาการที่ไม่รุนแรง ในขณะที่ Enterovirus 71 อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือหัวใจล้มเหลว
โรคนี้ระบาดช่วงไหนของปีมากที่สุด?
ในประเทศไทย มือเท้าปากในเด็กมักพบการระบาดในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม และกันยายน-พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศอุ่นชื้น เหมาะแก่การเจริญเติบโตของไวรัส นอกจากนี้ การเปิดเทอมของโรงเรียนในช่วงเหล่านี้ยังทำให้เด็กๆ มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดในชุมชน

ลูกติดเชื้อได้อย่างไร? ช่องทางการแพร่กระจายเชื้อที่ต้องป้องกัน
การเข้าใจช่องทางการแพร่กระจายของโรคมือเท้าปากในเด็กจะช่วยให้พ่อแม่สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคนี้แพร่กระจายได้หลายทาง และเด็กเล็กมักมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น การเอามือเปื้อนเชื้อใส่ปาก หรือแบ่งปันของเล่นกับเพื่อน
การสัมผัสโดยตรง
การสัมผัสโดยตรงเป็นช่องทางหลักในการติดมือเท้าปากในเด็ก เมื่อเด็กสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย หรือของเหลวจากตุ่มน้ำใสของผู้ป่วย ไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางปาก จมูก หรือรอยแผลเล็กๆ บนผิวหนัง พฤติกรรมการจูบ กอด หรือการใช้ภาชนะร่วมกันจึงเป็นความเสี่ยงสูง
นอกจากนี้ เด็กที่ป่วยยังสามารถถ่ายทอดเชื้อผ่านอุจจาระได้นานถึง 2-4 สัปดาห์หลังหายป่วย ทำให้การเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือการดูแลความสะอาดส่วนบุคคลเป็นจุดเสี่ยงที่สำคัญ
การสัมผัสทางอ้อม
ไวรัสสาเหตุของโรคมือเท้าปากในเด็กสามารถอยู่รอดบนพื้นผิวต่างๆ ได้นาน โดยเฉพาะบนของเล่นพลาสติก โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบอล หรือพื้นผิวที่เด็กมักสัมผัส เมื่อเด็กสุขภาพดีไปสัมผัสพื้นผิวเหล่านี้แล้วเอามือใส่ปาก จึงมีความเสี่ยงติดเชื้อสูง
การแพร่กระจายทางอ้อมนี้ทำให้การทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในศูนย์เด็ก โรงเรียนอนุบาล หรือสถานที่ที่มีเด็กหลายคนใช้ของร่วมกัน
ระยะฟักตัวของโรค
หลังจากติดเชื้อมือเท้าปากในเด็ก ระยะฟักตัวของโรคจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ในระยะนี้เด็กอาจยังไม่แสดงอาการใดๆ แต่สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้แล้ว ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นเรื่องท้าทาย
เด็กจะมีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงสุดในสัปดาห์แรกของการเจ็บป่วย และอาจยังแพร่เชื้อต่อได้อีกหลายสัปดาหาแม้อาการจะหายแล้ว
วิธีสังเกตอาการโรคมือเท้าปากในเด็กอย่างละเอียด
การสังเกตอาการโรคมือเท้าปากในเด็กในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้การดูแลรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น อาการเริ่มต้นมักเป็นไข้สูง 38-40 องศาเซลเซียส เหมือนกับไข้หวัดทั่วไป ตามด้วยเจ็บคอ ปวดศีรษะ และไม่อยากอาหาร
หลังจากนั้น 1-2 วัน จะเริ่มเห็นตุ่มน้ำใสเล็กๆ บริเวณปาก ลิ้น เหงือก และด้านในแก้ม ทำให้เด็กเจ็บปากและไม่อยากกินอาหาร ตุ่มเหล่านี้จะแตกเป็นแผลเล็กๆ ภายใน 2-3 วัน และค่อยๆ หายไปเองใน 7-10 วัน
พร้อมกันนั้นจะเกิดผื่นแดงเล็กๆ หรือตุ่มน้ำใสที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และบางครั้งที่ก้น หน้าขา และแขน ผื่นเหล่านี้มักไม่คัน แต่อาจทำให้เด็กรู้สึกไม่สบาย
วิธีดูแลลูกน้อยที่บ้านเมื่อเป็นโรคมือเท้าปาก
การดูแลมือเท้าปากในเด็กที่บ้านต้องใช้ความอดทนและความเอาใจใส่เป็นพิเศษ เนื่องจากเด็กมักจะหงุดหงิด กินอาหารไม่ได้ และต้องการความสนใจเป็นพิเศษ การดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้เด็กฟื้นตัวเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
การลดไข้และเช็ดตัวอย่างถูกวิธี
เมื่อเด็กมีไข้สูงจากโรคมือเท้าปากในเด็ก ให้ยาลดไข้ตามน้ำหนักและอายุที่เหมาะสม สามารถใช้พาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟนได้ตามคำแนะนำของแพทย์ การเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นจะช่วยลดไข้ได้ดี หลีกเลี่ยงการเช็ดตัวด้วยน้ำเย็นหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำให้เด็กสั่น
การให้เด็กดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะเมื่อเด็กมีไข้สูงและไม่อยากกินอาหาร
การดูแลแผลในปาก และเทคนิคเลือกเมนูอาหารที่ลูกยอมกิน
แผลในปากจากมือเท้าปากในเด็กทำให้เด็กเจ็บปากและปฏิเสธอาหาร ควรเลือกอาหารที่นิ่ม เย็น และไม่เผ็ดหรือเปรียว เช่น โจ๊ก ข้าวต้มใส ไอศกรีม นม หรือน้ำผลไม้ที่ไม่เปรี้ยว หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็ง หยาบ หรือมีรสชาติจัดจ้าน
การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นหลังอาหารจะช่วยทำความสะอาดแผลและลดการติดเชื้อ สำหรับเด็กเล็กที่บ้วนปากไม่ได้ ให้ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ แทน
การดูแลตุ่มที่ผิวหนัง ไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อน
ตุ่มและผื่นจากโรคมือเท้าปากในเด็กมักไม่ต้องใช้ยาพิเศษ แต่ควรดูแลไม่ให้เด็กเกาจนแตก เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน ตัดเล็บเด็กให้สั้น สวมถุงมือให้เด็กเล็กในระหว่างนอน และใช้โลชันที่ไม่มีแอลกอฮอล์ทาเพื่อลดความแห้งของผิวหนัง
หากตุ่มมีหนองหรือแดงบวมมากขึ้น ควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อซ้ำซ้อน
สัญญาณเตือน! อาการแบบไหนที่ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที
แม้โรคมือเท้าปากในเด็กส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง แต่มีอาการบางอย่างที่ต้องระวัง หากเด็กมีไข้สูงต่อเนื่องมากกว่า 3 วัน ชัก เหนื่อยหอบ เซื่องซึม ไม่ยอมดื่มน้ำ อาเจียนรุนแรง หรือมีอาการทางระบบประสาท เช่น ปวดหัวรุนแรง ต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันที
อาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือหัวใจอักเสบ ซึ่งต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล
การป้องกันโรคมือเท้าปาก ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
การป้องกันมือเท้าปากในเด็กเป็นสิ่งที่ทำได้และมีประสิทธิภาพสูง หากทุกคนในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนให้ความร่วมมือ การสร้างนิสัยการรักษาความสะอาดและการควบคุมสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ
การทำความสะอาดของของใช้ส่วนตัว
ของเล่นและของใช้ส่วนตัวเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมือเท้าปากในเด็กได้ง่าย ควรทำความสะอาดของเล่นด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ โดยเฉพาะของเล่นที่เด็กชอบเอาเข้าปาก ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ และจานชามส่วนตัวไม่ควรใช้ร่วมกันในช่วงที่มีการระบาด
สร้างสุขอนามัยที่ดี
การล้างมืออย่างถูกต้องเป็นการป้องกันโรคมือเท้าปากในเด็กที่มีประสิทธิภาพที่สุด สอนเด็กให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดเป็นเวลา 20 วินาที ก่อนกินอาหาร หลังใช้ห้องน้ำ หลังเล่น และเมื่อกลับจากข้างนอก การใช้เจลแอลกอฮอล์สามารถใช้เป็นทางเลือกเมื่อไม่มีน้ำและสบู่
สร้างสภาวะแวดล้อมที่ดี
การใช้เทคโนโลยีเพิ่มเติมอย่างเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เช่น Wellis Air ที่ใช้เทคโนโลยีไฮดรอกซิล (OH-) สามารถช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสสาเหตุโรคมือเท้าปากในเด็กได้ เครื่อง Wellis Air มีผลการทดสอบจากห้องแลปสามารถกำจัดไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคมือเท้าปาก COVID-19, RSV, Rotavirus, SARS, MERS, ไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธ์ และไวรัสอื่นๆ ได้ทั้งในอากาศและบนพื้นผิวสัมผัส สามารถช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคในเด็กได้
เครื่องนี้ปลอดภัยต่อเด็กและสัตว์เลี้ยง โดยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และสหภาพยุโรป (CE) รวมถึงการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 60335 เล่ม 2(65)-2564) ของประเทศไทย สามารถเปิดใช้ในระหว่างที่มีคนอยู่ในห้อง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน โรงเรียน หรือศูนย์เด็กเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดเชื้อโรค
สรุปบทความ
โรคมือเท้าปากในเด็ก เป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยแต่สามารถป้องกันและดูแลรักษาได้ การเข้าใจเกี่ยวกับอาการ วิธีการแพร่กระจาย และการดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้พ่อแม่สามารถรับมือกับโรคนี้ได้อย่างมั่นใจ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรักษาสุขอนามัยที่ดี ล้างมือบ่อยๆ และทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือในการฆ่าเชื้อโรคในอากาศ
หากพบว่าลูกมีอาการสงสัยเป็นมือเท้าปากในเด็ก ควรแยกตัวจากเพื่อนๆ และให้การดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมสังเกตอาการผิดปกติที่อาจต้องพบแพทย์ การป้องกันและการดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้เด็กหายป่วยเร็วและลดการแพร่กระจายในชุมชน
ติดต่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือเลือกซื้อ Wellis Air ได้แล้ววันนี้
Line OA: @wellisthailand
Facebook: Wellis Thailand Official
Messenger: Wellis Thailand Official
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: 081-559-8555