สารที่ระเหิดได้มีอะไรบ้าง? รู้จักหลักการทำงานของ “การระเหิด” และการป้องกันภายในบ้าน

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมลูกเหม็นในตู้เสื้อผ้าถึง “หายไป” เองไม่เหลือร่องรอย หรือการบูรที่เอามาดับกลิ่นอับในห้องน้ำถึงหดเล็กลงเรื่อยๆ จนหมดไปในที่สุด นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “การระเหิด” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หลายคนไม่ทราบว่าอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

สารที่ระเหิดได้ คือสารเคมีต่างๆ ที่เปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นไอโดยตรง โดยไม่ผ่านสถานะของเหลว ซึ่งเป็นกระบวนการที่เราอาจพบเห็นได้ทุกวันในบ้าน แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ การเข้าใจถึงสารเหล่านี้และวิธีการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรรู้

การระเหิด (Sublimation) คืออะไร_ ทำไมของแข็งบางชนิดถึง _หายไป_ ในอากาศได้

การระเหิด (Sublimation) คืออะไร? ทำไมของแข็งบางชนิดถึง “หายไป” ในอากาศได้

การระเหิด เป็นปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของวงจรธรรมชาติที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในบ้านของเราเอง เมื่อเข้าใจหลักการทำงานของการระเหิดแล้ว เราจะสามารถใช้ความรู้นี้ในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในครัวเรือนได้ดียิ่งขึ้น

คำอธิบายหลักการระเหิดแบบเข้าใจง่าย

การระเหิด เกิดขึ้นเมื่อโมเลกุลของสารบางชนิดที่อยู่ในสถานะของแข็งมีพลังงานเพียงพอที่จะหลุดออกจากโครงสร้างผลึกและเปลี่ยนเป็นไอโดยตรง กระบวนการนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อุณหภูมิ ความดันอากาศ และสมบัติเฉพาะของสารนั้นๆ

สาเหตุที่สารที่ระเหิดสามารถ “หายไป” ในอากาศได้ เพราะโมเลกุลของสารเหล่านี้มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลที่อ่อนแอ ทำให้สามารถเปลี่ยนสถานะได้ง่ายแม้ในอุณหภูมิห้อง ซึ่งแตกต่างจากสารประเภทอื่นที่ต้องใช้ความร้อนสูงกว่ามาก

ความแตกต่างระหว่าง “การระเหิด” และ “การระเหย”

หลายคนมักสับสนระหว่างการระเหิด และการระเหย แต่จริงๆ แล้วทั้งสองกระบวนการมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน การระเหยเป็นการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นส่วนการระเหิด เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นไอโดยตรง

ความแตกต่างนี้สำคัญมากในการทำความเข้าใจสารที่ระเหิด เพราะมันส่งผลต่อความเร็วในการกระจายตัวของสารในอากาศ และระดับความเข้มข้นของสารที่เราอาจสูดดมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

ตัวอย่างสารที่ระเหิดได้ ที่พบเจอได้บ่อยในบ้านและอาจเป็นอันตราย

ในชีวิตประจำวันของเรา มีสารที่ระเหิด หลายชนิดที่เราใช้อยู่เป็นประจำ โดยไม่ทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ การรู้จักสารเหล่านี้และเข้าใจพฤติกรรมของมันจะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ลูกเหม็น (Naphthalene): สารเคมีที่ใช้ไล่แมลงในตู้เสื้อผ้า

ลูกเหม็น เป็นสารที่ระเหิด ที่พบเจอได้มากที่สุดในครัวเรือนไทย โดยมักใช้สำหรับไล่แมลงในตู้เสื้อผ้า ถุงเก็บผ้า หรือกล่องเก็บของต่างๆ กลิ่นเฉพาะของลูกเหม็นเกิดจากการระเหิดของ Naphthalene ที่กระจายตัวในอากาศ

อย่างไรก็ตาม ลูกเหม็นเป็นสารที่ระเหิดที่มีความเป็นพิษ หากสูดดมในปริมาณมากหรือเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ และในกรณีรุนแรงอาจส่งผลต่อระบบประสาทและเซลล์เม็ดเลือดแดง องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงจัดให้ Naphthalene อยู่ในกลุ่มสารที่อาจก่อมะเร็งได้

การบูร (Camphor): ใช้สำหรับดับกลิ่นอับในห้องน้ำหรือตู้

การบูร เป็นอีกหนึ่งสารที่ระเหิด ที่คนไทยใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในห้องน้ำหรือพื้นที่ที่มีกลิ่นอับชื้น กลิ่นเย็นๆ เฉพาะของการบูรช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าการบูรจะเป็นสารที่ระเหิด ที่มีความปลอดภัยสูงกว่าลูกเหม็น แต่หากใช้ในพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทดีหรือสูดดมเป็นเวลานาน ก็อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

พิมเสน (Borneol): ส่วนผสมในยาหม่อง หรือใช้สูดดม

พิมเสน เป็นสารที่ระเหิด ที่พบในผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรไทยหลายชนิด เช่น ยาหม่อง ยาดม ยาหอมสูดดม กลิ่นหอมเฉพาะของพิมเสนช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก ปวดหัว และให้ความรู้สึกสดชื่น

แม้ว่าพิมเสนจะเป็นสารที่ระเหิด ที่มาจากธรรมชาติและมีความปลอดภัยสูง แต่การใช้ในปริมาณมากหรือสูดดมเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้

น้ำแข็งแห้ง (Dry Ice): มักได้รับมาจากการเก็บความเย็นอาหาร

น้ำแข็งแห้ง เป็นสารที่ระเหิด ที่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ในสถานะของแข็ง มักพบในการขนส่งอาหารแช่แข็ง ไอศกรีม หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำ เมื่อน้ำแข็งแห้งระเหิดจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรง

การจัดการน้ำแข็งแห้ง ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการระเหิดสามารถทำให้ระดับออกซิเจนในบริเวณนั้นลดลง หากอยู่ในพื้นที่ปิดหรือไม่มีการถ่ายเทอากาศดี อาจทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจนได้

อันตรายที่แฝงมากับสารระเหิดในบ้านที่คุณอาจไม่เคยรู้

อันตรายที่แฝงมากับสารระเหิดในบ้านที่คุณอาจไม่เคยรู้

สารที่ระเหิด ในบ้านของเรา แม้จะดูไม่เป็นอันตราย แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ การรู้จักอันตรายเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับข้อแนะนำจากกรมควบคุมโรคและองค์การอนามัยโลก

ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจเมื่อสูดดมในที่อากาศไม่ถ่ายเท

เมื่อสารที่ระเหิดได้ กระจายตัวในอากาศภายในบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทดี จะทำให้เกิดการสะสมของสารเคมีในระดับที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อาการเบื้องต้นที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ การระคายเคืองในจมูก เจ็บคอ หรือไอ

การสูดดมสารระเหิด เป็นเวลานานในสถานที่อับอากาศอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว วิงเวียน คลื่นไส้ และในกรณีรุนแรงอาจส่งผลต่อระบบประสาท การมีระบบปรับอากาศที่ดีหรือเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกำจัดสารเคมีได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ความเป็นพิษต่อเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงหากสัมผัสหรือกลืนกิน

เด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงมีความไวต่อสารระเหิดมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าและระบบขับถ่ายสารพิษที่ยังไม่สมบูรณ์ หากเด็กหรือสัตว์เลี้ยงสัมผัสหรือกลืนกินสารระเหิด เช่น ลูกเหม็น อาจเกิดอาการเป็นพิษได้

สัญญาณเตือนที่ควรระวังได้แก่ อาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หายใจผิดปกติ หรือมีอาการทางระบบประสาท หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที การเก็บสารระเหิด ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

การระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา

การสัมผัสสารระเหิด โดยตรงกับผิวหนังหรือดวงตาอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีปัญหาเรื่องผิวหนังอยู่แล้ว อาการที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ ผิวแดง คัน ผื่นขึ้น หรือมีรอยแผลได้

สำหรับดวงตา หากไอของสารที่ระเหิดได้ เข้าสัมผัสอาจทำให้เกิดอาการแสบตา น้ำตาไหล ตาแดง และอาจมองเห็นไม่ชัดชั่วคราว การล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันทีและหลีกเลี่ยงการถูตาจะช่วยลดอาการระคายเคืองได้

วิธีป้องกันและใช้งานสารระเหิดในบ้านอย่างปลอดภัย 100%

การใช้สารที่ระเหิดได้ ในบ้านอย่างปลอดภัยต้องอาศัยความรู้และความระมัดระวัง การจัดเก็บในที่ที่มีการระบายอากาศดี เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่ใช้ปริมาณมากเกินจำเป็น นอกจากนี้การมีระบบฟอกอากาศที่ดีจะช่วยลดความเข้มข้นของสารเหล่านี้ในอากาศภายในบ้าน

สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้ป่วย การเลือกใช้ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า เช่น การใช้เครื่องฆ่าเชื้อโรคที่ใช้เทคโนโลยีประจุไฮดรอกซิลแทนสารเคมี จะช่วยลดความเสี่ยงจากสารที่ระเหิดได้ และยังคงประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคและสารพิษในอากาศได้อย่างดีเยี่ยม

Wellis Air เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และหน่วยงานมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของสหภาพยุโรป (CE Certificate) รวมถึงการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 60335 เล่ม 2(65)-2564) ของประเทศไทย

ข้อดีของเครื่องฆ่าเชื้อโรคคือสามารถกำจัดเชื้อโรคได้ทั้งในอากาศและบนพื้นผิววัตถุต่างๆ เช่น โซฟา เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า โดยไม่ต้องใช้ สารระเหิดที่อาจเป็นอันตราย นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการกำจัดไวรัส COVID-19, SARS, MERS, RSV และเชื้อโรคอื่นๆ ด้วยการปล่อยประจุไฮดรอกซิล (Hydroxyl) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง ตามผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากล ดังนั้นการใช้เครื่องฆ่าเชื้อโรค จึงเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าสำหรับสุขภาพครอบครัว โดยเฉพาะในยุคที่การระบาดของโรคติดต่อต่างๆ ยังคงเป็นความกังวลสำคัญ

สรุปบทความ

สารระเหิด เป็นสารเคมีที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันมากกว่าที่คิด ตั้งแต่ลูกเหม็น การบูร พิมเสน ไปจนถึงน้ำแข็งแห้ง การเข้าใจพฤติกรรมและอันตรายของสารเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การป้องกันความเสี่ยงจากสารระเหิด สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ให้ความสำคัญกับการระบายอากาศ การเก็บรักษาที่เหมาะสม และการเลือกใช้ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเมื่อเป็นไปได้ ด้วยความรู้และความระมัดระวังที่เหมาะสม เราสามารถอยู่ร่วมกับสารเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ติดต่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือเลือกซื้อ Wellis Air ได้แล้ววันนี้

Line OA: @wellisthailand

Facebook: Wellis Thailand Official 

Messenger: Wellis Thailand Official 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: 081-559-8555

Leave a Reply